การฉีดโบท็อกลดกราม เป็นหนึ่งในหัตการที่นิยมมากโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีปัญหากรามใหญ่ หน้าบาน ต้องการปรับรูปหน้าของตัวเองให้ดูเล็กลง ดูเรียวขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ที่สำคัญคือมีราคาไม่แพง เห็นผลไว หลังฉีดดูแลตัวเองได้ง่าย อีกทั้งตัวยาโบท็อก ฉีดแล้วไม่เป็นอันตราย ไม่มีสารตกค้าง
สำหรับใครที่สนใจ อยากรู้ว่าการฉีดโบท็อกลดกราม คืออะไร ? ช่วยให้หน้าเรียวได้อย่างไร ? มีข้อที่ควรรู้อะไรบ้าง เช่น ฉีดโบท็อกลดกรามใช้กี่ยูนิต ? กี่วันเห็นผล ? ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน ? อันตรายไหม ? ฉีดแล้วไม่เห็นผลเกิดจากอะไร ? สามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้
กล้ามเนื้อกราม
ก่อนที่จะไปรู้จักกับการฉีดโบท็อกลดกราม เราต้องทำความรู้จักกับ “กล้ามเนื้อกราม” ในเบื้องต้นก่อนค่ะ เพราะการฉีดโบท็อกลดกราม จะช่วยแก้ปัญหาหน้าบานที่มีสาเหตุมาจากจากกล้ามเนื้อเท่านั้น
กล้ามเนื้อกราม (Masseter muscle) เป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ รูปสี่เหลี่ยม มีความแข็งแรงมาก เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณกระดูกโหนกแก้ม มีลักษณะทอดตัวเป็นเส้นลงมาเกาะที่กระดูกขากรรไกรล่าง ทำหน้าที่ในการออกแรงบดเคี้ยวอาหาร รวมทั้งอ้าปาก หุบปาก เมื่อลองเอามือคลำบริเวณกรามแล้วกัดฟัน จะรู้สึกว่ากรามเด้งขึ้น ดูปูดขึ้น ทำให้คนที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ หน้าจะดูบาน และดูไม่เรียว
ฉีดโบท็อกลดกราม คืออะไร ช่วยลดกรามได้อย่างไร ?
ฉีดโบท็อกลดกราม คือ การฉีดตัวยาโบท็อก หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ( Botulinum toxin type A)เข้าไปในบริเวณกราม เพื่อระงับการทำงานของกล้ามเนื้อกรามให้ทำงานลดลง และเกิดการคลายตัว หลังฉีดจึงส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามที่ดูใหญ่ มีขนาดเล็กลง หน้าจึงดูเรียวขึ้น
ฉีดโบท็อกลดกราม ใช้กี่ยูนิต ?
การฉีดโบท็อกลดกราม จะมีหน่วยนับตัวโบท็อกเป็นยูนิต โดยปกติจะใช้ประมาณ 50-100 ยูนิต ในการฉีดโบท็อกลดกราม แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของหมอด้วยว่า ขนาดของกล้ามเนื้อกรามบนใบหน้า ของคนไข้แต่ละคน ใหญ่ประมาณเท่าไหร่ และควรใช้จำนวนยูนิตปริมาณเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสม ซึ่งแต่ละคนมีปัญหาแตกต่างกัน จำนวนยูนิตที่ใช้อาจจะไม่เท่ากัน
หลังฉีดโบท็อกลดกราม กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดโบท็อกลดกราม จะไม่ได้เห็นผลในทันทีค่ะ เนื่องจากตัวยาโบท็อกจะต้องใช้เวลาในการออกฤทธิ์ซึ่งกล้ามเนื้อกรามเป็นส่วนของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ต้องรอประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะเริ่มเห็นผลว่ากัดกรามแล้วกรามไม่เด้ง จากนั้นอีก 2-3 เดือน ถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนว่าใบหน้าดูเรียวขึ้น หน้าดูเล็กลง
ตัวอย่างผลลัพธ์ก่อน-หลัง ฉีดโบท็อกลดกราม
ฉีดโบท็อกลดกราม ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน ?
หลังฉีดโบท็อกลดกราม หลายคนอาจจะชอบผลลัพธ์ ที่ใบหน้าของตัวเองดูเรียว ดูเล็กลง อยากกลับมาฉีดอีกบ่อย ๆ แต่ในความจริงแล้วไม่สามารถทำแบบนั้นได้ค่ะ ต้องเว้นระยะเวลา ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดไปอย่างน้อย 4-6 เดือน จึงค่อยกลับมาฉีดซ้ำ เพราะหากเราฉีดโบท็อกถี่เกินไป จะทำให้เสี่ยงดื้อโบท็อกได้ค่ะ
ฉีดโบท็อกลดกราม อันตรายไหม ?
หลายคนมีความกังวลว่า ฉีดโบท็อกไปแล้วจะทำให้หน้าเบี้ยว หรือมีสารตกค้างอยู่ในร่างกาย แต่ที่จริงแล้ว การฉีดโบท็อกไม่ได้เป็นอันตรายเลยค่ะ ถ้าเราใช้ตัวยาโบท็อกที่ได้มาตรฐาน ผ่านอย.ไทย ก็จะมีความปลอดภัย และการฉีดโบท็อก เข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อกราม ไม่ได้มีผลต่อการแสดงสีหน้า หรือการทำให้ยิ้มแล้วดูแข็ง ๆ
ในกรณีที่หน้าเบี้ยวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อตัวยากระจายไปยังกล้ามเนื้ออื่นที่เราไม่ได้ต้องการ ดังนั้นการฉีดโบท็อกลดกราม จึงต้องเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องเท่านั้นค่ะ ถึงจะไม่เกิดปัญหาหน้าเบี้ยวตามมาหลังฉีด
และสุดท้าย สำหรับใครที่กลัวว่าโบท็อกจะตกค้างอยู่ในร่างกาย หลังฉีด ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลย เพราะโบท็อกก็เป็นเหมือนยาที่ไปออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อ แล้วสลายไปเองตามธรรมชาติ ไม่ได้ตกค้างบนใบหน้าของเรา
ฉีดโบท็อกลดกราม แล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร ?
หากฉีดโบท็อกลดกรามไปแล้ว ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลง กรามยังดูใหญ่ หน้ายังไม่เล็กลง อาจมีสาเหตุมาจาก
- โบท็อกที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน เป็นโบท็อกหิ้วที่มีการจัดเก็บตัวยาในอุณหภูมิที่ไม่ถูกต้อง ไม่อยู่ในอุณหภูมิ 2-8 องศา ทำให้ตัวยาเสื่อมสภาพ อาจมีสิ่งเจือปน ฉีดแล้วออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่
- จำนวนยูนิตไม่เหมาะสม แพทย์ใช้จำนวนยูนิตน้อยเกินไป หรือมีการผสมตัวยาเจือจางมากทำให้ฉีดแล้วไม่เห็นผล
- ดื้อยาโบท็อก ซึ่งมี 2 สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ดื้อยาโบท็อก ก็คือ
- ใช้ตัวยาโบท็อกที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นโบท็อกหิ้วที่เสื่อมคุณภาพ ทำให้ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผลหรือเห็นผลน้อยลง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการไปฉีดกับหมอกระเป๋า
- ฉีดโบท็อกบ่อยเกินไป ทั้งที่ควรเว้นระยะเวลา อย่างน้อย 4-6 เดือน เมื่อฉีดเข้าไปใหม่ก็จะทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกาย ไปจับกับตัวโบท็อกที่ยังไม่ได้ออกฤทธิ์ ทำให้โบท็อกถูกสลายไป ดังนั้น เมื่อฉีดโบท็อกเข้าไปใหม่ ก็จะทำให้ไม่เห็นผล ไปเรื่อย ๆ
หากดื้อโบท็อกแล้ว ต้องทำอย่างไร ?
อาการดื้อโบท็อกเป็นภาวะที่รักษาไม่ได้ ต้องรอให้ภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นลดลง และสลายไปเอง ซึ่งต้องใช้เวลานานพอสมควร ในคนที่ดื้อโบท็อกระดับรุนแรงอาจใช้เวลาหลาย 10 ปี และไม่ได้การันตีว่ากลับมาฉีดแล้วจะเห็นผลเหมือนเดิม
ดังนั้นเวลาที่จะเลือกฉีดโบท็อกอะไรก็ตาม อย่างแรกควรเลือกสถานพยาบาล หรือคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้อง เลือกตัวยาที่ได้มาตรฐาน ผ่าน อย.ไทย และฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีหลังฉีด
หลังฉีดโบท็อกลดกราม ควรปฎิบัติตัวอย่างไร ?
- หลังฉีดโบท็อกลดกราม ควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อทันที 1-2 ครั้ง เพื่อให้เซลล์ประสาทดูดโบท็อก เข้าไปได้มากที่สุด
- งดการนอนราบอย่างน้อย 3 ชม. เพื่อป้องกันไม่ให้โบท็อกกระจายตัวไปยังจุดอื่นที่ไม่ต้องการ
- หลีกเลี่ยงการทำความร้อนและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงทุกชนิด เพราะจะทำให้โบท็อกสลายไว
- งดทานอาหารที่ต้องอยู่หน้าเตาเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงงดการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
สรุป ฉีดโบท็อกลดกราม
โบท็อกลดกราม ถือเป็นหัตถการที่ดีในการช่วยลดใบหน้าให้ดูเล็กลง ดูเรียวขึ้นได้จริง โดยเฉพาะกับคนที่หน้าบานจากขนาดกล้ามเนื้อกรามใหญ่ แต่สิ่งที่ควรคำนึง ก่อนฉีดโบท็อกลดกราม เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี มีความปลอดภัย และไม่มีปัญหาดื้อยาในอนาคต คือ การเลือกใช้ตัวยาโบท็อกแท้ผ่านอย. เลือกฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และฉีดโดยหมอที่มีประสบการณ์สูง