โบท็อกรักแร้ เป็นหัตถการที่สามารถช่วยลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัวได้อย่างเห็นผล เหมาะสำหรับคนที่มีกลิ่นตัวมีเหงื่ออกเยอะผิดปกติ ต้องการปรับบุคลิกภาพ และเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ปัจจุบันโบท็อกรักแร้ได้รับความนิมและเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะช่วยลดเหงื่อได้จริง เห็นผลลัพธ์ไว มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก ราคาไม่แพง ไม่ต้องกังวลว่าจะเสี่ยงแพ้สารเคมีจากผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายค่ะ
สำหรับคนที่สนใจการทำ “โบท็อกรักแร้” ว่าคืออะไร ? ช่วยลดเหงื่อได้อย่างไร ? เห็นผลในกี่วัน ? อยู่ได้นานแค่ไหน ? เหมาะกับใคร ? มีข้อดี-ข้อควรระวังอะไรบ้าง และหลังฉีดโบท็อกมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร ? ในบทความนี้รวบรวมคำตอบไว้ให้แล้วค่ะ
เหงื่อออกมาก เกิดจากอะไร ?
โดยปกติแล้วคนเราจะมีกระบวนการระบายความร้อนออกมาในรูปแบบของเหงื่อ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายลง แต่ในคนที่มีเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) หรือเหงื่อออกมากเฉพาะที่ เช่น รักแร้ ผ่ามือ ผ่าเท้า อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติของร่างกาย, ระบบประสาทที่ไม่สามารถควบคุมการทำงานของต่อมเหงื่อได้ หรืออาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น ๆ เช่น
- สภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เหงื่อออก
- พันธุกรรม โดยผู้ที่มีเหงื่อออกมากมักจะมีประวัติว่าคนในครอบครัวเป็นภาวะนี้เช่นเดียวกัน
- โรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์
- สภาวะทางอารมณ์ เช่น โกรธ กลัว เครียด วิตกกังวล หรืออึดอัดใจ
- การทานอาหารบางประเภท เช่น อาหารเผ็ดร้อน เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
- เป็นผู้หญิงวัยทอง ใกล้หมดประจำเดือน
- การรับประทานยาบางชนิด
- มีขนขึ้นเยอะ รกรุงรัง
- การออกกำลังกาย
ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติมีหลายปัจจัยมากระตุ้น จึงทำให้ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร แต่ปัจจุบันเราสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีทางการแพทย์อย่างการฉีดโบท็อกรักแร้ เพื่อไปลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ช่วยให้เหงื่อออกน้อยลง มีกลิ่นตัวน้อยลงได้ค่ะ
โบท็อกรักแร้ คืออะไร ช่วยลดเหงื่อได้อย่างไร ?
โบท็อกรักแร้ คือ การฉีดตัวยาโบท็อกเข้าไปบริเวณรักแร้ 20-30 จุด ข้างละ 50-100 ยูนิต เพื่อยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อให้ผลิตเหงื่อออกมาน้อยลง หลังฉีดสามารถลดเหงื่อออกที่ใต้รักแร้ได้กว่า 80% อีกทั้งยังช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียบริเวณรักแร้ ที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวอันไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย
โบท็อกรักแร้ ฉีดแล้วเห็นผลเมื่อไหร่ อยู่ได้นานไหม ?
หลังจากฉีดโบท็อกรักแร้แล้ว จะใช้เวลาประมาณ 3 – 7 วัน เหงื่อจะค่อย ๆ ลดลง แต่ในคนที่ยังต้องเจอกับสภาพอากาศร้อน ทำให้เหงื่ออกมาก อาจทำให้เห็นผลช้าลง
หลังฉีดโบท็อกรักแร้จะคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3 – 5 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวันร่วมด้วยหากต้องการเห็นผลลัพธ์ต่อเนื่อง หลังฉีดครั้งแรกผ่านไป 3 – 4 เดือน ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำอีกได้ค่ะ
โบท็อกรักแร้ เหมาะกับใคร ?
- คนที่มีปัญหาเหงื่อออกเยอะผิดปกติ ทำให้มีกลิ่นตัว
- คนที่ไม่อยากให้รักแร้เปียกแฉะ จนเห็นเป็นวงบริเวณใต้แขนเสื้อ
- คนที่ต้องออกงานสังคมบ่อยๆ ต้องการความมั่นใจเวลาใส่เสื้อผ้า
- คนที่ต้องเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเป็นประจำ ไม่มั่นใจในกลิ่นกาย
- คนที่แพ้ผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว เช่น โรลออน สเปรย์ สติ๊ก และครีม
- คนที่ต้องการลดเหงื่อแบบเห็นผลลัพธ์เร็ว
- คนที่กลัวเจ็บ กลัวการผ่าตัดต่อมเหงื่อที่รักแร้ ไม่อยากมีรอยแผลเป็นที่รักแร้
โบท็อกรักแร้ มีข้อดี–ข้อควรระวัง อะไรบ้าง ?
ข้อดี
- หลังฉีดโบท็อกรักแร้ ไม่ต้องพักฟื้น ทำแล้วสามารถกลับบ้านได้เลย
- หมดปัญหามีกลิ่นอับจากการเปียกชื้นของเหงื่อ
- รู้สึกสบายตัวมากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นตัว เวลาไปในที่ที่คนเยอะ ๆ
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บ ไม่มีแผลเป็น
- ราคาไม่แพง
- มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเตรียมตัวเยอะ
ข้อควรระวัง
- หากไปฉีดโบท็อกรักแร้ กับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ ไม่มีความชำนาญ คำนวณปริมาณโบท็อกไม่ถูกต้อง ไม่รู้เทคนิคการฉีดอย่างถูกต้องแม่นยำ ฉีดไปแล้วอาจไม่เห็นผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง
- หากเลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ใช้โบท็อกปลอม โบท็อกหิ้วที่ไม่มีคุณภาพ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
การฉีดโบท็อกรักแร้ มีขั้นตอนการทำอย่างไร ?
การฉีดโบท็อกรักแร้มีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาในการทำประมาณ 20-30 นาที โดยเริ่มจาก
- แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประตัว รวมถึงยา วิตามิน อาหารเสริมที่ทานอยู่ ให้กับแพทย์
- พนักงานทำความสะอาดผิวบริเวณรักแร้ที่จะฉีดให้
- พนักงานทำการประคบเย็น ฉีดยาชา หรือทายาชา (เราสามารถเลือกได้ตามความต้องการ) เพื่อลดอาการเจ็บระหว่างใช้เข็มฉีดยา
- แพทย์ใช้ปากกาเขียนผิวหนัง ร่างรูปสี่เหลี่ยมแบ่งเป็นช่องเล็ก ๆ ครอบคลุมบริเวณแนวรักแร้ เพื่อทำให้ตัวยาโบท็อกออกฤทธิ์กระจายครอบคลุมต่อมเหงื่อ
- แพทย์ใช้โบท็อกของแท้ แกะกล่องให้ดูต่อหน้า แล้วเริ่มทำการฉีดโบท็อกรักแร้ 20-30 จุด
- เมื่อทำการฉีดโบท็อกรักแร้เสร็จ แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเอง จากนั้นสามารถกลับบ้านใช้ชีวิตได้ตามปกติ
วิธีดูแลตัวเอง หลังฉีดโบท็อกรักแร้
หลังฉีดโบท็อกรักแร้ ควรดูแลตัวเองและงดทานอาหารบางประเภท ที่ส่งผลต่อผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อก ในช่วง 2 อาทิตย์ หรือหากทำไม่ได้จริง ๆ ก็ควรทำตามเป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชม.หรือ 2 วัน ดังนี้
หลังฉีดโบท็อกรักแร้ ทันที
- งดแกะ เกา นวด บริเวณรักแร้ที่ฉีดโบท็อก
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อและระงับกลิ่นกาย เช่น สเปรย์ สติ๊ก โรลออน และครีม 1 วัน
- เลี่ยงการออกแดดจัด ทำกิจกรรมกลางแจ้ง
หลังฉีดโบท็อกรักแร้ 2 สัปดาห์
- งดทำทรีทเมนต์ และเลเซอร์บริเวณรักแร้
- งดการอบตัว ทำซาวน่า
- หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
วิธีดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เหงื่อออกเยอะ รักแร้เปียก
- สวมเสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่คับแน่นจนเกินไป เช่น เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย Seersucker, ผ้าฝ้าย Madras, ผ้าลินิน (Linen) , ผ้าแชมเบรย์ (Chambray) , ผ้าป็อปปลิน (Poplin)
- รักษาความสะอาดของร่างกาย อาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
- ดูแลเสื้อผ้าที่สวมใส่ให้แห้งอยู่ตลอดเวลา เพื่อลดกลิ่นอับชื้น
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด รวมถึงอาหารเผ็ดร้อน ซึ่งขับเหงื่อและทำมีกลิ่นตัวแรง
- ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย เพื่อไม่ให้น้ำหนักเกินมาตรฐาน และต่อมเหงื่อที่รักแร้ผลิตเหงื่อออกมากกว่าปกติ
โบท็อกรักแร้ มีกี่ยี่ห้อ ราคาเท่าไหร่ ?
การฉีดโบท็อกรักแร้ ราคาจะแตกต่างไปตามแต่ละสถานพยาบาลหรือคลินิก ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและคุณภาพของโบท็อกที่เลือกใช้ ดังนี้
โบท็อกเกาหลี Nabota/ Aestox
- โบท็อกลดเหงื่อ จำนวน 100 U ราคา 9,000 บาท อยู่ได้ 3 เดือน
- โบท็อกลดเหงื่อ จำนวน 200 U ราคา 14,000 บาท อยู่ได้ 5 เดือน
โบท็อกอังกฤษ Dysport
- โบท็อกลดเหงื่อ จำนวน 300 U ราคา 18,000 บาท อยู่ได้ 3 เดือน
- โบท็อกลดเหงื่อ จำนวน 600 U ราคา 28,000 บาท อยู่ได้ 5 เดือน
โบท็อกเยอรมัน Xeomin
- โบท็อกลดเหงื่อ จำนวน 200 U ราคา 28,000 บาท อยู่ได้ 5 เดือน
สำหรับการฉีดโบท็อกรักแร้ โบท็อกยี่ห้อที่นิยมจะเป็นโบท็อกอังกฤษ ยี่ห้อ Dysport เพราะตัวยามีการกระจายตัวกว้าง ไม่กระจุกอยู่เป็นจุดแคบ ๆ ครอบคลุมต่อมเหงื่อได้ดีกว่า และทำให้เหงื่อแห้งสนิทได้ดีกว่า เหมาะสำหรับการฉีดลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว บริเวณรักแร้
โบท็อกรักแร้ ที่ไหนดี ?
ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกรักแร้ที่ไหนดี แนะนำให้เลือกคลินิกที่จะเข้ารับบริการ ตามเกณฑ์การเลือก ดังนี้
- คลินิกได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ มั่นใจได้ว่าใช้ตัวยาโบท็อกของแท้ มีคุณภาพ มีการจัดเก็บและนำเข้าอย่างถูกต้อง คลินิกสะอาด ไม่อับทึบ ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแทรกซ้อนหรือติดเชื้อ
- แพทย์ที่ฉีดโบท็อกรักแร้ต้องมีประสบการณ์สูง มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง สามารถคำนวณปริมาณการใช้โบท็อกให้กับคนไข้แต่ละเคสได้อย่างเหมาะสม เพราะปริมาณเหงื่อของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนเหงื่อออกน้อย บางคนเหงื่อออกมาก จึงต้องอาศัยประสบกาณ์ของแพทย์ในการประเมิน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
- มีรีวิวผลลัพธ์ก่อน-หลังทำ จากผู้ใช้บริการจริง เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจในผลลัพธ์หลังทำ ว่าได้ผลจริง ๆ
- ราคาในการฉีดโบท็อกรักแร้มีความเหมาะสม เมื่อเทียบกับคลินิกอื่น ๆ ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป
สรุป โบท็อกรักแร้
สำหรับคนที่มีปัญหาเหงื่อออกมากจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โบท็อกรักแร้ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างเห็นผล เป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็ว หลังฉีดไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลเร็ว หมดห่วงเรื่องรักแร้เปียก ไม่มั่นใจในกลิ่นตัว แต่ก่อนทำโบท็อกรักแร้ ควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ เลือกคลินิกที่ใช้โบท็อกแท้ แพทย์มีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ตามที่คาดหวังเอาไว้ค่ะ