ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน ?
ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน? สำหรับใครที่วางแผนฉีดฟิลเลอร์ ไม่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน หรือฉีดฟิลเลอร์เป็นครั้งแรก ควรศึกษาข้อมูลไว้ เพื่อจะได้สังเกตอาการของตนเองได้อย่างถูกต้อง เพราะอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์มีหลายแบบ แต่ละแบบอันตรายไหม? ฉีดฟิลเลอร์จุดไหนน่ากังวล และถ้าอยากให้ฟิลเลอร์ยุบบวมเร็ว ๆ ควรทำอย่างไร? และอีกหลายคำถามเกี่ยวกับอาการบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน? ติดตามได้ในบทความนี้
ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ อาจมีอาการบวม เขียวช้ำ ผื่นคัน หรือจุดแดงบริเวณรอยเข็ม ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ไม่เป็นอันตราย เป็นอาการบวมจากการฉีดยาชา และบวมที่เกิดจากเข็ม ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน? ประมาณ 7-14 วัน อาการบวมจะยุบลง ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ผสานรวมตัวกันและกลืนเป็นเนื้อเดียวกับผิวได้อย่างเรียบเนียน เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ใน 2 สัปดาห์
ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมมีกี่แบบ ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ หลายคนอาจมีความกังวลว่าอาการบวมที่เกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์นั้น เป็นอาการบวมที่เป็นปกติ ไม่เป็นอันตราย บวมเป็นก้อน หรือบวมจากการติดเชื้อ ซึ่งแต่ละแบบจะมีอาการแสดงที่แตกต่างกัน
1. ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม
เป็นอาการบวมจากการฉีดยาชา จากรอยเข็ม หลังจากอาการบวมลดลง ฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ประมาณ 7-14 วัน สำหรับใครที่กังวลหรือสงสัยว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมหรือเป็นก้อนกันแน่ อาจจะต้องรอให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดมายุบบวมก่อนหลัง 7-14 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นอาการบวม หรือฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน
2. ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมเป็นก้อน
บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ผิวเป็นก้อน ไม่เรียบเนียน เกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ เทคนิคการฉีดและสบการณ์ของแพทย์ ฉีดผิดตำแหน่ง ผิดชั้นผิว อาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้ รวมถึงชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ ยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณ CC ที่ใช้ ต้องเหมาะสมกับปัญหาของคนไข้และบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน (ใต้ตา หน้าผาก ปาก คาง) รู้สาเหตุและวิธีแก้ไขให้ผิวคืนสภาพ
3. ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมจากการติดเชื้อ-แพ้ฟิลเลอร์
หากเกิดจากการติดเชื้อ มีอาการแพ้ฟิลเลอร์ แบบนี้เป็นอันตราย อาการที่แสดงคือจะอาการปวดร่วมด้วยในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ รวมทั้งมีอาการบวมขึ้นเรื่อย ๆ กดเจ็บ ผิวหนังบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มีสีแดงหรือคล้ำผิดปกติ รู้สึกร้อนที่ผิวหนังบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ (ใช้หลังมือแตะดู คล้ายวิธีวัดไข้) หากฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมในลักษณะนี้ เกิดจากการติดเชื้อ ต้องรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษา รับประทานยาฆ่าเชื้อ หรือฉีดสลายด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase)
ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมเป็นก้อน เกิดจากอะไร ?
ตามที่ได้อธิบายไปในหัวข้อข้างต้นว่าฉีดฟิลเลอร์ แล้วบวมเป็นก้อน เกิดได้จากหลายสาเหตุ เมื่อโฟกัสแต่ละสาเหตุ จะมีรายละเอียดดังนี้
1. เลือกใช้ชนิดฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด
เป็นสาเหตุที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้ เพราะไม่ใช่ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อจะเหมาะกับการฉีดทุกตำแหน่ง ฟิลเลอร์ที่ขนาดของโมเลกุลมีความหนาแน่นสูงควรฉีดในผิวชั้นลึก ถ้านำมาฉีดในผิวชั้นตื้นก็จะทำให้ดันฟิลเลอร์เป็นก้อนได้ เช่น ใช้ฟิลเลอร์ที่มีความแข็งและเหนียวค่อนข้างมาก นำมาใช้ฉีดบริเวณใต้ตา จะทำให้ฟิลเลอร์ดูเป็นก้อนได้
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี? Restylane Juvederm Belotero ปรับรูปหน้า เลือกอย่างไร?
2. ฉีดฟิลเลอร์ไม่ตรงกับตำแหน่งที่มีปัญหา
ในกรณีนี้ เช่น ต้องการฉีดลดริ้วรอยแต่ฉีดลึกเกินไป ต้องการฉีดเติมร่องลึกแต่ฉีดตื้นเกินไป รวมถึงการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม เกินความจำเป็นในจุดที่ต้องฉีด ก็ทำให้เมื่อฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวมได้
3. แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ขาดประสบการณ์
แพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์แต่ละชนิด รวมถึงโครงสร้างสรีรวิทยาของร่างกายมนุษย์ ศิลปะด้านการปรับรูปหน้า จึงจะสามารถวิเคราะห์ปัญหาและแก้ไขได้ตรงจุด ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ หากฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ขาดความรู้และประสบการณ์ อาจมีความเสี่ยงฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้
4. ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่าน อย.
ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่สามารถสลายได้ ราคาถูก ไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อเวลาผ่านไปจะจับตัวกันเป็นก้อน หรือไหลย้อยไม่เป็นทรง ไม่ควรฉีดเด็ดขาดเพราะไม่มีตัวยาที่นำมาฉีดสลายฟิลเลอร์ปลอมได้ ต้องขูดออกหรือศัลยกรรมผ่าตัดออกเท่านั้น
ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มั่นใจได้ว่าใช้ฟิลเลอร์แท้ วิธีดูฟิลเลอร์แท้ รู้ทันฟิลเลอร์ปลอม ตรวจสอบได้ด้วยตัวเองก่อนฉีด
2 จุดที่พบบ่อย ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม
อาการบวมเป็นเรื่องปกติที่พบได้หลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งพบได้แทบทุกจุดของการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็น
แต่ 2 จุดหลักที่พบได้บ่อยและเป็นกังวลมากที่สุด คือ ฟิลเลอร์ใต้ตา และฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ฟิลเลอร์ใต้ตา
เนื่องจากเนื้อเยื่อบริเวณใต้ตา ค่อนข้างบางกว่าบริเวณอื่น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จึงเกิดอาการบวมได้มากกว่าจุดอื่น ๆ ซึ่งอาการบวมนี้ เป็นอาการบวมที่เกิดเป็นขึ้นเป็นปกติ ไม่ใช่ว่าฟิลเลอร์ยุบบวมแล้วแต่ยังเป็นก้อนอยู่ ซึ่งอันนั้นถือเป็นอาการบวมที่ผิดปกติ ส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง แพทย์ฉีดตื้นเกินไป เลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด ฉีดมากเกินไปจนผิวหนังบริเวณนั้นตึง และอีกกรณีคือฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเป็นฟิลเลอร์ปลอม
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
แม้ว่าผิวบริเวณร่องแก้มจะไม่ได้บางเหมือนบริเวณใต้ตา แต่ก็เป็นอีกจุดที่มีความกังวล หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน เข้าที่เมื่อไหร่? ใช้เวลานานไหม? หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอาจมีอาการบวมบ้างจากเข็มหรือตัวยาเป็นเรื่องปกติ แต่เนื่องจากปัญหาร่องแก้มเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ร่องแก้มลึกมาจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา ก็ไม่ควรแก้ปัญหาด้วยการฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้ม จะทำให้หน้าดูบวม เนื้อมากองบริเวณเหนือร่องแก้ม ดูอูมผิดธรรมชาติ ถ้าใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้องหรือเลือกใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด อาจพบปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แล้วเป็นก้อนได้
ฉีดสลายฟิลเลอร์บวมเป็นก้อนได้หรือไม่ ?
ถ้าใช้ฟิลเลอร์แท้ ที่ผ่านการรับรองจากอย. เช่น
สามารถฉีดสลายได้ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL) ซึ่งจะช่วยย่อยสลายฟิลเลอร์ได้
- 15-20 นาที จะเริ่มเห็นผล ฟิลเลอร์สลายไป 60-70%
- 2 วัน เห็นผลชัดเจน โดยฟิลเลอร์จะยุบตัวหลังฉีดและละลายเป็นน้ำซึมไปตามผิวหนัง
เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสจะเข้าไปสลายฟิลเลอร์ โดยลดคุณสมบัติการอุ้มน้ำ ทำลายการยึดเกาะของฟิลเลอร์ ปรับสมดุลบริเวณผิวที่ฉีดฟิลเลอร์ให้กลับมาเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงเดิมมากที่สุด ฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ยุบตัวลง และสลายไปในที่สุด โดยสามารถสลายออกได้หมด 100%
หลังจากนั้นแพทย์จะนัดมาติดตามผล หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ไปแล้ว ฟิลเลอร์สลายไปหมดหรือไม่? ยังมีก้อนอยู่ไหม? หากยังมีอยู่ แพทย์จะพิจารณาฉีดสลายเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม 1-2 ครั้งใน 1 เดือน แต่ละเคสอาจจะมีจำนวนครั้งในการฉีดสลายที่แตกต่างกัน อยู่ที่ปริมาณฟิลเลอร์เดิมที่ฉีด และบริเวณที่ต้องการฉีดสลาย
ข้อควรปฏิบัติ ป้องกันฉีดฟิลเลอร์แล้วบวม
- หลีกเลี่ยงการแตะ เกา กด นวด ในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้อาการบวมเพิ่มขึ้น อักเสบติดเชื้อได้ หากมีอาการบวมมากขึ้น ควรกลับไปที่คลินิกเพื่อรับยารับประทานเพิ่ม
- หากก่อนฉีดฟิลเลอร์ทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที
- รับประทานยาแก้ปวด ลดบวม ที่แพทย์จ่ายให้หลังทำต่อเนื่องจนครบ เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ
- อยู่แต่ในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. หลังทำ เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด และดื่มแอลกอฮอล์
- งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
- งดทานอาหารและเครื่องดื่มบางประเภทที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวม และทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น อาหารหมักดอง อาหารดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
- ดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นาน
สรุป
ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน? ประมาณ 7-14 วัน จากนั้นอาการบวมจะค่อย ๆ ยุบลง และฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ หากยังมีอาการบวมเป็นก้อน หรือบวมกดเจ็บ มีอาการบวมผิดปกติ เช่น ติดเชื้อ หรือมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ ควรรีบกลับมาพบแพทย์ที่คลินิก เพื่อวินิจฉัยสาเหตุและวิธีรักษา หรือฉีดสลายฟิลเลอร์
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันปัญหาฉีดฟิลเลอร์ บวมเป็นก้อน ควรฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ใช้ฟิลเลอร์แท้ และเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ? แนะวิธีเลือกคลินิก พร้อม 10 Checklist ที่ต้องรู้! สามารถอ่านเพิ่มเติมได้
