ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน (ใต้ตา หน้าผาก ปาก คาง) รู้สาเหตุและวิธีแก้ไขให้ผิวคืนสภาพ

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เป็นผลข้างเคียงที่พบได้หลังฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์คาง ที่พบได้บ่อยกว่าจุดอื่น ๆ ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดกับตัวเอง ก่อนฉีดฟิลเลอร์จึงควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน

มาดูว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากออะไร? ฟิลเลอร์เป็นก้อน หรือ อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ แตกต่างกันอย่างไร? แล้วจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรหากฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน พร้อมวิธีป้องกัน เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ออกมาสวยงาม เติมเต็มผิวเรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติตามที่คาดหวัง

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร?

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน โดยสาเหตุหลักเกิดจาก

• ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน จากการติดเชื้อ
• ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน จากเทคนิคและสบการณ์ของแพทย์
• ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน จากชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้
• ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน จากปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้
• ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน จากฟิลเลอร์ปลอม /ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน จากการติดเชื้อ

เริ่มที่สาเหตุแรก ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนจากการติดเชื้อ โดยในเบื้องต้นเราสามารถสังเกตอาการตัวเองได้ ซึ่งจะมีอาการแสดง ดังนี้

• หลังฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน มีอาการปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากขึ้น มากกว่าปกติ
• ผิวหนังบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ มีอาการบวมขึ้นเรื่อย ๆ
• ผิวหนังบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ มีสีแดงหรือคล้ำผิดปกติ (ห้อเลือด)
• รู้สึกร้อนบริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์ (ให้ลองใช้หลังมือแตะ คล้ายวิธีวัดไข้)

หากมีการติดเชื้อจะรู้มีอาการปวดมากกว่าปกติ บวมกดเจ็บมากบริเวณก้อนฟิลเลอร์ ผิวหนังบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ร้อนกว่าบริเวณอื่น อาจเป็นไปได้เกิดการติดเชื้อ ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอีกครั้งให้แน่ใจ และรีบทำการรักษา

ปวด บวม กดเจ็บบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ที่ไม่ใช่การติดเชื้อ

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ นอกจากจะเกิดจากฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ติดเชื้อ อักเสบ บวมแดงแล้ว ยังมีสาเหตุที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน บวม ผิวไม่เรียบเนียน ที่ไม่ใช่การติดเชื้อ ซึ่งต้องรอดูอาการประมาณ 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนนั้นไม่ได้เกิดจากอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ที่สามารถหายได้เองได้ โดยจะมีอาการแสดง ดังนี้

• บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ผิวเป็นก้อน ไม่เรียบเนียน
• หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ
• หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่ชอบ ไม่สวย ผลลัพธ์ไม่เป็นที่ต้องการ

นอกจากนั้น เทคนิคและสบการณ์ของแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด หรือฉีดฟิลเลอร์ปลอม /ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านอย. ทั้งหมดนี้ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้

เทคนิคและสบการณ์ของแพทย์

การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่ใครก็ฉีดได้ ต้องเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับฟิลเลอร์แต่ละชนิดที่นำมาฉีด โครงสร้างสรีรวิทยาของร่างกายมนุษย์ ศิลปะด้านการปรับรูปหน้าเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ แพทย์ที่ขาดความรู้และประสบการณ์ ไม่รู้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้ จากการฉีดผิดตำแหน่ง ผิดชั้นผิว

ควรฉีดแพทย์มีประสบการณ์ รู้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง

เลือกชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นความหนืด ความยืดหยุ่น ความคงตัว การขึ้นรูป และขนาดของโมเลกุล เพื่อให้แพทย์เลือกใช้แก้ปัญหาในแต่ละจุดที่ไม่เหมือนกัน ฟิลเลอร์ที่มีขนาดของโมเลกุลมีความหนาแน่นสูง ควรฉีดในผิวชั้นลึก ถ้านำมาฉีดในผิวชั้นตื้นก็จะทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้ เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา หากใช้ฟิลเลอร์ที่มีความแข็งและเหนียวค่อนข้างมาก นำมาใช้ฉีดบริเวณใต้ตา ฟิลเลอร์อาจจับตัวเป็นก้อนแข็งใต้ตาได้

ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้

นอกจากฟิลเลอร์จะมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ โดยยี่ห้อที่เห็นกันบ่อยในคลินิกเสริมความงามชั้นนำ เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm (อเมริกา) ฟิลเลอร์ Restylane (สวีเดน) และฟิลเลอร์ Belotero (สวิตเซอร์แลนด์) ปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคนก็ยังมีความหลากหลายแตกต่างกันด้วยเช่นกัน

การจะเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี? รวมถึงปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ และตำแหน่งที่ฉีด ต้องพิจารณาให้มีความเหมาะสม หากฉีดริ้วรอยลึกเกินไป ฉีดเติมร่องลึกที่ตื้นเกินไป หรือใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม เกินความจำเป็นที่ใช้ในการแก้ปัญหาในจุดที่ต้องการฉีด ก็อาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้

ฉีดฟิลเลอร์ปลอม /ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่สามารถสลายได้ เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน มีราคาถูก ไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อเวลาผ่านไปจะจับตัวกันเป็นก้อน ไหลย้อยไม่เป็นทรง จึงไม่ควรฉีดโดยเด็ดขาด เพราะหากฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน จะไม่มีตัวยาที่นำมาฉีดสลายฟิลเลอร์ปลอมได้ ต้องขูดออกหรือศัลยกรรมผ่าตัดออกเท่านั้น

ตรวจสอบฟิลเลอร์ก่อนฉีด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้

สำหรับการสังเกตฟิลเลอร์ปลอม ในเบื้องต้นสามารถดูได้จาก

1. มีราคาถูกกว่าท้องตลาดมากผิดปกติ
2. ไม่มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
3. เลข Lot. ที่กล่อง หลอด และสติกเกอร์ไม่ตรงกัน
4. ฉีดกับผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นแพทย์ เช่น หมอกระเป๋า
5. ฟิลเลอร์ที่ขายในอินเทอร์เน็ต
6. ฟิลเลอร์ที่ไม่ใช่ยี่ห้อที่อย.ไทยรับรอง

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน จากการบวม

โดยปกติแล้วหลังฉีดฟิลเลอร์ จะมีอาการบวมประมาณ 2-3 วัน แต่ในบางเคสที่ผิวบวมง่าย อาจพบอาการบวมได้ 5-7 วัน จากนั้นใน 7-14 วัน ฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ ในระหว่างนี้อาจจะต้องรอให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดมายุบบวมก่อนหลัง 7-14 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นอาการบวม หรือฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน จุดไหนได้บ้าง?

ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง โดยมี 7 จุดบนใบหน้า ที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด ได้แก่

• ฟิลเลอร์ใต้ตา เติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
• ฟิลเลอร์คาง ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย วีเชฟ แก้คางสั้น คางตัด คางถอย
• ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ปัญหาร่องแก้มลึก เติมเต็มร่องริ้วรอย ให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
• ฟิลเลอร์ปาก ปรับรูปทรงปาก ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้น
• ฟิลเลอร์ขมับ แก้ปัญหาขมับลึก ขมับตอบ เติมเต็มใบหน้าให้มีมิติ
• ฟิลเลอร์หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน เสริมโหงวเฮ้ง
• ฟิลเลอร์จมูก เสริมจมูกให้ดูโด่ง เป็นทรงขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ชั้นผิวหรือตื้นเกินไป ทำให้ฟิลเลอร์นูนขึ้นเหนือชั้นกล้ามเนื้อ มองเห็นเป็นก้อน ผิวไม่เรียบเนียน หรือฉีดฟิลเลอร์แล้วไปโดนเส้นเลือดบริเวณรอบดวงตา ซึ่งเป็นอันตราย รุนแรงถึงขั้นตาบอดได้ ต้องรีบฉีดสลายฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วเป็นก้อน หรือฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน เกิดจากการฉีดในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป เมื่อเกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้หน้าผากเป็นคลื่น เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้องควรฉีดในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกเท่านั้น หรือได้เกิดจากใช้ปริมาณฟิลเลอร์หน้าผากมาเกินไป ทำให้หน้าผากผิดรูป ดูไม่เป็นธรรมชาติ ไม่สมส่วนสวยงาม

ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน เกิดจากการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มากเกินไป ทำให้ปากออกมาอวบอิ่มเกินพอดี ปากใหญ่ ปากเจ่อ คล้ายปากเป็ด ไม่สวยงาม และดูไม่เป็นธรรมชาติ

ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วเป็นก้อน เกิดจากฉีดฟิลเลอร์คางในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป เมื่อเวลาผ่านไปเนื้อของฟิลเลอร์จะถูกกล้ามเนื้อมัดนี้ดึงมารวมกันเป็นก้อน ทำให้เวลาพูด เวลายิ้ม จะเห็นคางดูยาวแหลมเป็นแม่มด หรือคางย้อยลง ผิดรูป และดูไม่เป็นธรรมชาติ

ฉีดฟิลเลอร์คางในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน แก้ไขอย่างไร?

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน สามารถฉีดสลายได้ ได้ยินแบบนี้แล้วคงทำให้หลายคนที่กำลังคิดจะฉีดฟิลเลอร์คลายความกังวลขึ้นมาได้บ้าง แต่ฉีดสลายฟิลเลอร์ในที่นี้ จะใช้ได้กับฟิลเลอร์แท้ HA (Hyaluronic Acid) เท่านั้น ถ้าเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือฟิลเลอร์ปลอม ต้องใช้วิธีอื่น ที่นอกจากจะเจ็บตัวแล้ว ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ก็อาจจะไม่กลับคืนสภาพเดิมได้ 100%

ฉีดสลายฟิลเลอร์

หากฟิลเลอร์ที่ฉีดมาเป็นฟิลเลอร์แท้ HA (Hyaluronic Acid) สามารถใช้ตัวยาไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase : HYAL) ฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ครับ โดยแพทย์จะคำนวณปริมาณตัวยาที่จะใช้เพื่อฉีดสลาย จากปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดมากี่ CC เพื่อให้ได้ปริมาณยาสลายที่เหมาะสม และเมื่อฉีดแล้วไม่กระทบเนื้อเยื่อส่วนอื่น ๆ

ฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยไฮยาลูโรนิเดส

ขูดฟิลเลอร์

การขูดฟิลเลอร์ใช้กับผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนที่ไม่ใช่ HA (Hyaluronic Acid) ฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายเองได้ เช่น Polyamine (Aqualift), Hydrofilic gel เมื่อขูดแล้วอาจจะไม่สามารถเอาออกได้หมด อาจได้เพียง 60-70% เท่านั้น

ผ่าตัดฟิลเลอร์ออก

ใช้ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภทซิลิโคนเหลวมาแล้วเป็นก้อนขนาดใหญ่และแข็งมาก หรือฉีดฟิลเลอร์มานานจนเป็นพังผืดเกาะ การผ่าตัดส่วนใหญ่จะไม่สามารถเอาฟิลเลอร์ออกได้หมด อีกทั้งในบางตำแหน่งที่ฉีดยัง ต้องระวังทั้งเรื่องของเส้นประสาท เส้นเลือดสำคัญต่าง ๆ และต้องทำโดยศัลยแพทย์ตกแต่งในโรงพยาบาล เพื่อความปลอดภัย

วิธีป้องกันไม่ให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

ปัญหาหรือผลข้างเคียง อย่างการฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนนั้น สามารถป้องกันได้ ดังนี้

1. ฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง
2. ฉีดฟิลเลอร์แท้ HA (Hyaluronic Acid) ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อ.ย.
3. ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เลือกใช้ฟิลเลอร์เติมเต็ม ปรับรูปหน้า แก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม

ดังนี้ ควรฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพราะหากเกิดเหตุสุดวิสัยก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ ซึ่งจะเห็นผลทันทีในบางส่วน และจะเห็นผลต่อเนื่องใน 1-3 วัน ไม่ทำให้เนื้อตาย หลังฉีดผิวกลับคืนสภาพเดิม ถือว่ามีความปลอดภัย 100% และหากต้องการฉีดฟิลเลอร์เพิ่ม ควรเว้นระยะเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อให้เนื้อเยื่อบริเวณที่ฉีดสลายฟิลเลอร์เข้าที่ก่อน

• Facebook
• X
• Line