ฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่ คืออะไร ? มีเทคนิคการฉีดอย่างไร ? ให้บวมช้ำน้อย

ฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่(1)

ฟิลเลอร์เข็มทู่

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่ ให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ทำให้บวมช้ำน้อย ใครที่กำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ และมีข้อสงสัยว่า ฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่ คืออะไร ? ต่างกับเข็มแหลมอย่างไร ? ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง ? มีเทคนิคการฉีดอย่างไร ? บทความนี้มีคำตอบ


ฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่ คืออะไร ?

ฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่ หรือเข็มปลายทู่ (Blunt Cannula) คือ การใช้เข็มที่มีลักษณะปลายทู่ ยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ในการฉีดฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อเติมในส่วนที่กระดูกยุบตัวลง การใช้เข็มทู่จะไม่มีความคม ไม่แทงทะลุเส้นเลือด ทำให้สามารถป้องกันการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อได้มากกว่า เมื่อเทียบกับการใช้เข็มแหลม  

เข็มฉีดฟิลเลอร์
เข็มแหลม vs เข็มทู่ 

เข็มทู่มีลักษณะอย่างไร ?

เข็มทู่ มีลักษณะปลายกลมมน ไม่คม ความยาวของเข็มมีตั้งแต่ 3/8 นิ้ว ไปจนถึง 5 นิ้ว และมีหลายขนาด ตั้งแต่เข็มที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กไปจนถึงใหญ่ ตั้งแต่ 14G-27G   

ขนาดของเข็มทู่
เข็มทู่มีหลายขนาด ยิ่งเบอร์เล็ก ยิ่งมีขนาดใหญ่

ฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่ ต่างกับ เข็มแหลม อย่างไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ?

ฟิลเลอร์เข็มทู่และเข็มแหลม นอกจากจะมีลักษณะเข็มที่ต่างกันแล้ว ยังมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้

ฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่ ฉีดฟิลเลอร์เข็มแหลม

ลักษณะ

ปลายเข็มกลมมน ไม่คม เวลาฉีดสามารถหลบเลี่ยงเนื้อเยื่อและเส้นเลือดได้ดี 

ลักษณะ

ปลายเข็มคม สามารถแทงผ่านผิวได้ทุกระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นหนังแท้ถึงชั้นกระดูก และเส้นเลือด

ข้อดี
  • มีจุดเปิดเข็มน้อย 1-2 จุด ก็สามารถฉีดได้ทั่วหน้า
  • รอยเขียวช้ำน้อย
  • เหมาะกับบริเวณที่ต้องใช้ความละเอียด ฉีดในชั้นเนื้อที่ตื้นขึ้นมาหรือสามารถฉีดชิดกระดูกได้บางจุด
  • สามารถเลาะพังผืดใต้ผิวได้ 

ข้อดี

  • ใช้งานง่าย แม่นยำ สะดวก
  • เหมาะกับจุดที่ต้องใช้ความแม่นยำสูง หรือฉีดชิดกระดูก เช่น หน้าผาก ขมับ 

ข้อเสีย

  • แพทย์ต้องมีประสบการณ์และใช้เทคนิคในการฉีดสูง
  • หากออกแรงเยอะอาจแทงเข้าเส้นเลือด ทำให้บาดเจ็บ

ข้อเสีย

  • มีรูเปิดเข็มหลายรอย เสี่ยงต่อการฉีดโดนเส้นเลือด
  • มีโอกาสฉีดทะลุเข้าไปในเนื้อเยื่อ และเส้นเลือด
เทคนิคการฉีดเข็มแหลมกับเข็มทู่
การฉีดด้วยเข็มแหลมจะเสี่ยงต่อการโดนเส้นเลือดมากกว่าแบบเข็มทู่ 

ฟิลเลอร์เข็มทู่เหมาะกับฉีดตำแหน่งใดบ้าง ?

ฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่ เหมาะกับการฉีดในจุดที่ต้องใช้ความละเอียด และฉีดชิดกระดูกได้ในบางจุด เช่น

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา
  • ฟิลเลอร์ขมับ
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
  • ฟิลเลอร์แก้มตอบ 

ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่

  • มีจุดสอดเข็มน้อย เพียง 1-2 จุด ก็สามารถฉีดได้ทั่วทั้งหน้า ทำให้บวมช้ำน้อย 
  • สามารถหลีกเลี่ยงการแทงเข้าเส้นเลือด ซึ่งเป็นอันตราย อาจทำให้เนื้อตายหรือตาบอดได้ (หากฉีดฟิลเลอร์แท้ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขได้ทันท่วงที) 
  • การใช้เข็มปลายทู่ สามารถวางฟิลเลอร์บนกระดูกได้ดีกว่า ทำให้ฉีดได้ละเอียดกว่า
  • ช่วยเลาะพังผืดใต้ผิวได้ในกรณีที่เป็นหลุมสิวจำนวนมาก หรือเคยมีแผลเป็น
  • ยกหน้าได้ผลดี ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่

ฟิลเลอร์เข็มทู่ จะใช้เทคนิคการฉีดที่ต้องระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เนื้อเยื่อและเส้นเลือดเกิดการบาดเจ็บ มีวิธีการดังนี้

  1. การเลือกใช้ฟิลเลอร์เข็มทู่ ไม่ควรใช้เข็มที่ขนาดเล็กเกินไป เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการแทงเข้าหลอดเลือด และรูเข็มที่เล็กจะเพิ่มแรงดัน ทำให้ฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือดได้ง่าย โดยขนาดเข็มทู่ที่เหมาะสม คือ 22G-25G 
  2. ก่อนฉีดหมอจะฉีดยาชาเข้าไปบริเวณนั้น โดยทิ้งไว้ 3-5 นาที เพื่อที่ยาชาเป็นน้ำจะช่วยเข้าไปหล่อลื่นเส้นเลือด ลดโอกาสเข็มทู่เข้าเส้นเลือด
  3. ใช้เข็มมีคมเปิดรู จากนั้นสอดเข็มทู่ดันเข้าไป
  4. ก่อนดันยา หมอจะทดสอบโดยการดูดเข็มเข้ามาก่อน ค้างไว้ 10 วินาที เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เจาะโดนเส้นเลือด หากเข็มตัดโดนเส้นเลือด ขณะดูดเข็มจะมีเลือดผสมมาในเข็ม
  5. จากนั้นหมอจะทำการฉีดฟิลเลอร์ โดยจะคลำปลายเข็ม เพื่อดูว่ามีฟิลเลอร์ออกจากปลายเข็มหรือไม่ จะได้มั่นใจว่าฟิลเลอร์ไม่ได้เข้าหลอดเลือด
  6. ระหว่างฉีดฟิลเลอร์ หมอต้องคอยสังเกตสีผิวของคนไข้ เพราะถ้าฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือด ผิวจะซีดหรือแดง 
  7. หมอจะค่อย ๆ เดินยาในแต่ละจุดที่ฉีด เพื่อให้เกิดแรงดันน้อยที่สุด และฉีดปริมาณน้อย ๆ ไม่เกินจุดละ 0.1 cc หากเกิดสิ่งผิดปกติจะได้สามารถแก้ไขได้ทัน
ฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่

สรุป ฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่

การฉีดฟิลเลอร์เข็มทู่ เป็นเทคนิคที่มีความปลอดภัย ลดการบวมช้ำ ช่วยให้ใบหน้าเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะที่ไม่ใช่ใครก็ฉีดได้ ดังนั้นควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง รู้ตำแหน่งและเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่าที่สุด