ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน
ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน? เชื่อว่าเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนอยากรู้ และกำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับยี่ห้อฟิลเลอร์และรุ่นฟิลเลอร์ที่สนใจ โดยระยะเวลาอยู่ได้นาน จะมีความแตกต่างกัน และการที่ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานหรือสลายไปเร็วกว่ากำหนดนั้น ยังขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย โดยเฉพาะเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ รวมทั้งการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งแต่ละตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น ใต้ตา หน้าผาก ร่องแก้ม คาง ปาก ขมับ จะมีวิธีการดูแลอย่างไร? ฟิลเลอร์ Juvederm Restylane Belotero อยู่ได้นานแค่ไหน? ติดตามได้ในบทความนี้
ฉีดฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้ออยู่ได้นานแค่ไหน?
ฉีดฟิลเลอร์ อยู่ได้นานแค่ไหน? ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่น โดยทั่วไปฟิลเลอร์แท้ (Hyaluronic Acid : HA) ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. จะอยู่ได้ 6-24 เดือน
ทำไมฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ อยู่ได้นานต่างกัน
สาเหตุที่ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีอายุการใช้งานที่ต่างกัน เป็นเพราะเทคโนโลยีการผลิตและปริมาณของสาร HA ในแต่ละยี่ห้อ ที่มีความแข็ง ความยืดหยุ่น การกระจายตัว ค่าความอุ้มน้ำ จำนวนการเชื่อมพันธะ และขนาดของเม็ดฟิลเลอร์ต่างกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้ระยะเวลาอยู่ได้นานของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นต่างกัน และเหมาะกับการนำมาฉีดในตำแหน่งที่ต่างกัน
ฟิลเลอร์ Juvederm
ฟิลเลอร์ Juvederm ฟิลเลอร์อเมริกา ใช้ 2 เทคโนโลยีการผลิต คือ เทคโนโลยี Hylacross เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี และเทคโนโลยี Vycross ที่ทำให้ฟิลเลอร์ได้ผลดีในยกกระชับ ฉีดแล้วเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน ดูเป็นธรรมชาติ ที่ได้รับนิยมมีอยู่ 6 รุ่นด้วยกัน เพื่อให้แพทย์เลือกนำมาฉีดปรับรูปหน้า แก้ปัญหาผิวในแต่ละตำแหน่งได้อย่างเหมาะสม ดังนี้
- Juvederm Ultra Plus ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ฉีดแล้วฟูมาก ทำให้เต็มสวย เหมาะสำหรับฉีดขมับ ปากร่องแก้ม อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Voluma ฟิลเลอร์เนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา คาง ขมับ ปาก ร่องแก้ม อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Juvederm Volift ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียดมากกว่ารุ่น Ultra Plus เหมาะกับคนผิวบาง เหมาะสำหรับฉีดปาก แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม หว่างคิ้ว อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volite ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา บำรุงผิวชุ่มชื้น (Skin Booster) อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Juvederm Volbella ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดมากที่สุด เหมาะสำหรับฉีดหน้าผาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volux ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดคาง ใต้ตา ขมับ ร่องแก้มชั้นลึก อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane
ฟิลเลอร์ Restylane ฟิลเลอร์สวีเดน มีทั้งหมด 7 รุ่นที่ได้รับความนิยม โดยแต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกัน เกิดจากความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid (HA) ขนาดโมเลกุล และจำนวน Crosslink จาก 2 เทคโนโลยีการผลิต คือ NASHA Techology ที่ทำให้ฟิลเลอร์มีความคงตัว ปลอดภัย และป้องกันการเกิดการแพ้ และ OBT Technology ที่เน้นเรื่องของความยืดหยุ่น ทำให้ฟิลเลอร์สามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหาและเติมเต็ม ดังนี้
- Restylane Defyne ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง ใช้ฉีดกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก เหมาะฉีดใต้ตา ปาก อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Restylane Perlane Lyft ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะฉีดใต้ตา จมูก คาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Vital Light ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เจลอนุภาคเล็ก แก้ไขจุดที่มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมาะฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตา ผิวชั้นตื้น บำรุงผิวชุ่มชื้น (Skin Booster) ปาก อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Restylane Classic ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก สำหรับคนผิวบาง เหมาะฉีดใต้ตา ปาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Volyme ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ใช้เติมชั้นผิวให้อิ่มฟูขึ้น เหมาะฉีดปาก แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Restylane Refyne ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีลักษณะยืดหยุ่น ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เน้นการเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ เหมาะฉีดปาก ร่องแก้ม มุมปาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Kysse ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว ออกแบบเพื่อริมฝีปากโดยเฉพาะ สร้างขอบริมฝีปากได้ชัดเจน อวบอิ่ม ปรับสีปากให้สดใสขึ้น อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Belotero
ฟิลเลอร์ Belotero ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์ เป็นฟิลเลอร์อีกหนึ่งยี่ห้อที่นิยมใช้กันในคลินิกเสริมความงาม ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology เทคโนโลยีเฉพาะที่ทำให้ฟิลเลอร์ Belotero ขึ้นชื่อในเรื่องความยืดหยุ่นของเนื้อเจล การเกาะกันเป็นเนื้อเดียว ไม่ไหลไม่เป็นก้อน และการปั้นทรงสวย โดยที่นิยมจะมีอยู่ 3 รุ่นด้วยกัน ดังนี้
- Belotero Intense ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง มีจุดเด่นในการใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง เหมาะสำหรับฉีดร่องแก้ม เติมแก้มตอบ คาง อยู่ได้ 18 เดือน
- Belotero Volume ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง เหมาะสำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้ 18 เดือน
- Belotero Soft ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเก็บรายละเอียดริ้วรอยเล็ก ๆ เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา อยู่ได้ 6-12 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ แต่ละตำแหน่งอยู่ได้นานแค่ไหน?
ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นเหมาะกับการฉีดในตำแหน่งที่ต่างกัน อีกทั้งอายุของฟิลเลอร์ก็มีความแตกต่างกัน ยกตัวอย่างรุ่นฟิลเลอร์ที่แพทย์มักจะเลือกใช้และเป็นที่นิยม ดังนี้
- ฟิลเลอร์หน้าผาก รุ่นที่แนะนำ Juvederm Volbella อยู่ได้นาน 12 เดือน
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ใต้ตาชั้นลึก รุ่นที่แนะนำ Restylane Defyne อยู่ได้นาน 18 เดือน ใต้ตาชั้นตื้น รุ่นแนะนำ Juvederm Vital Light อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม รุ่นที่แนะนำ Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นาน 12 เดือน/ Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
- ฟิลเลอร์คาง รุ่นที่แนะนำ Restylane Perlane Lyft อยู่ได้นาน 12 เดือน/ Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
- ฟิลเลอร์ปาก ใช้ได้หลายรุ่น Restylane/ Juvederm อยู่ได้นาน 6 -18 เดือน
- ฟิลเลอร์ขมับ รุ่นที่แนะนำ Juvederm Ultra Plus อยู่ได้นาน 12 เดือน/ Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
โดยก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะต้องประเมินปัญหาเป็นรายเคส พร้อมกับแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการ
ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับอะไร?
ด้วยเทคโนโลยีการผลิตฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ ทำให้ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติและระยะเวลาคงอยู่ที่ต่างกันแล้ว เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ รวมทั้งการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ก็มีผลให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน
เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
เทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ สามารถทำให้ฟิลเลอร์คงผลลัพธ์ที่ดี ช่วยยกพยุง หรือป้องกันการเกิดความหย่อนคล้อยของผิวหน้าในอนาคตได้นานขึ้น
โดยปกติแล้วการฟิลเลอร์ยิ่งฉีดลงใต้ผิวลึก ๆ จะยิ่งอยู่ไม่นาน เพราะจะโดนกระบวนการย่อยสลายได้มากกว่าการฉีดชั้นตื้น ๆ ดังนั้นที่ผ่านมาการฉีดฟิลเลอร์ที่ชั้นไขมัน ใต้กล้ามเนื้อ หรือฉีดวางฟิลเลอร์บนกระดูกจึงอยู่ไม่นาน แต่หากใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ฝังใต้เยื่อหุ้มกระดูก จะสามารถซ่อนการทำลาย ลดการสลายของฟิลเลอร์ให้ช้าลงได้ แต่ใช่ว่าแพทย์ทุกคนจะฉีดเทคนิคนี้ได้ ต้องเป็นแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมและสั่งสมประสบการณ์อย่างน้อย 5-10 ปี
หลังฉีดฟิลเลอร์ ผลลัพธ์สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
การดูแลที่ดีช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น โดยหลังฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละตำแหน่งจะมีการดูแลที่คล้าย ๆ กัน และควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดังนี้
- อย่าบีบ นวด แกะ เกาบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ เพราะอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไว้เคลื่อนที่ไปผิดตำแหน่งได้
- อยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด และกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.
- งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดเช่น RF Thermage อย่างน้อย 1 เดือน
- งดสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้ยุบบวมช้า และฟิลเลอร์อยู่ได้สั้นลง
- กินยาตามที่สั่ง เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ
- ใน 2-3 คืนแรกหลังทำ ควรนอนยกหัวให้สูงกว่าระดับหน้าอก หนุนหมอน 2 ใบ
- ไม่ควรนอนตะแคง เพื่อป้องกันการกดทับหน้า ควรหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งฝั่งซ้ายและขวา
- ดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ
นอกจากการดูแล และห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ โดยทั่วไปแล้ว ในแต่ละตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ ยังมีวิธีการดูแลที่แตกต่างกันออกไป
ฟิลเลอร์ใต้ตา
ห้ามขยี้ตา เกา กดหรือนวด เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบ บางเคสมีอาการบวมแดง จะค่อย ๆ ดีขึ้นเองในช่วง 2-3 วัน แต่หากเลย 3 วันไปแล้ว อาการบวมแดงยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้กลับมาที่คลินิกเพื่อให้หมอตรวจเช็กหรือรับยากินเพิ่ม หากปวดระบมตามรอยเข็มในคืนแรกหลังทำ สามารถกินยาแก้ปวด พาราเซตามอลที่ทางคลินิกให้ไปทุก ๆ 4 ชม. และหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
ฟิลเลอร์หน้าผาก
ไม่ควรจับ กดนวดบริเวณหน้าผาก หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จทันที ห้ามนอนราบหลังฉีดฟิลเลอร์ 3-4 ชม. ไม่ควรนอนคว่ำ หรือมีการรัด กดบริเวณหน้าผาก หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน และห้ามถูหน้าแรง ๆ หรือกด บีบสิวบริเวณหน้าผาก
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
อย่าบีบ นวด แกะเกาบริเวณร่องแก้ม อาการปวดและบวมต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจจะทำให้ฟิลเลอร์ร่องแก้มเคลื่อนที่ได้ หากมีอาการปวด สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการ แต่หากหลังจาก 3 วัน ยังมีอาการปวดและบวมมากอยู่ สามารถติดต่อคลินิกที่ฉีดฟิลเลอร์เพื่อรับยาทานเพิ่มได้
ฟิลเลอร์คาง
หลังฉีดฟิลเลอร์คางห้ามนวด กด ปั้นทรงเองโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรกที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี เพราะจะทำให้คางเสียทรง นอกจากนั้นควรหลีกเลี่ยงการเท้าคาง การใส่หมวกกันน็อคที่รัดแน่น และไม่ควรนอนคว่ำ เพราะอาจทำให้เกิดการกดทับตรงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คาง อาการบวมจะค่อย ๆ หายไปประมาณ 4-5 วัน และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ ประมาณ 2-3 สัปดาห์
ฟิลเลอร์ปาก
หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด ไม่จับ บีบ นวดบริเวณริมฝีปาก ไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อน ๆ เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการบวม หรืออักเสบได้ง่าย งดการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังหนัก ๆ ที่จะทำให้ปากเสียรูปทรง ใน 12 ชม.แรกควรงดใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติกและงดสูบบุหรี่ และควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ และช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู อยู่ได้นานขึ้น
ฟิลเลอร์ขมับ
ไม่ควรกดนวด บริเวณขมับที่ฉีดฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงการนอนให้กดทับบริเวณขมับ เพราะจะทำให้รู้สึกเจ็บ หรือปวดศีรษะ หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ อาจรู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย เพราะเป็นจุดรวมเส้นประสาท จึงไวต่อความรู้สึกได้ง่าย โดยอาการปวดศีรษะสามารถหายได้เองในช่วง 1-2 วัน ในระหว่างนี้สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
ฟิลเลอร์ สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย จึงมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัย หลังจากฟิลเลอร์สลายหมด ผิวหนังบริเวณที่เคยมีฟิลเลอร์จะคืนสภาพเดิม แต่ดีกว่าเดิม เพราะฟิลเลอร์จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ ผิวมีน้ำมาหล่อเลี้ยงตลอดเวลา ทำให้ผิวชุ่มชื้น ดูสุขภาพดียิ่งขึ้น สามารถฉีดฟิลเลอร์เพิ่มได้เพื่อคงผลลัพธ์ในการเติมเต็มและปรับรูปหน้าให้สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ